google-site-verification=vm-0_Y8Q4DRw4o9ORhJ5rOMUquw6eCFqFLypod18Dvk ส่งออกอาหารไป US/EU ต้องเตรียมตัวอย่างไร? กฎหมาย FSMA และมาตรฐาน IFS ต้องการอะไรจากเรา

ส่งออกอาหารไป US/EU ต้องเตรียมตัวอย่างไร? กฎหมาย FSMA และมาตรฐาน IFS ต้องการอะไรจากเรา

Last updated: 8 ธ.ค. 2568  |  12 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ส่งออกอาหารไป US/EU ต้องเตรียมตัวอย่างไร? กฎหมาย FSMA และมาตรฐาน IFS ต้องการอะไรจากเรา

ตลาดสหรัฐอเมริกา (US) และสหภาพยุโรป (EU) ถือเป็นตลาดส่งออกอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นตลาดที่ขึ้นชื่อเรื่องความเข้มงวดด้าน Food Safety มากที่สุด ดังนั้นโรงงานอาหารไทยที่ต้องการส่งออกไปยังสองภูมิภาคนี้ จำเป็นต้องทำความเข้าใจข้อกำหนดด้านกฎหมายและมาตรฐานสำคัญ โดยเฉพาะ กฎหมาย FSMA (ของสหรัฐฯ) และ มาตรฐาน IFS Food (ของยุโรป)

บทความนี้จะอธิบายแบบเข้าใจง่ายว่า

  • กฎหมาย FSMA คืออะไรและต้องเตรียมตัวอย่างไร
  • มาตรฐาน IFS Food มีข้อกำหนดอะไรบ้าง
  • โรงงานต้องทำอะไรเพิ่มเพื่อผ่าน Audit
  • ทำไมเครื่องตรวจวัตถุแปลกปลอมจาก Siam Paragon Solutions จึงเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้โรงงานผ่านมาตรฐานระดับโลก

ทำความรู้จักกฎหมาย FSMA (Food Safety Modernization Act)
FSMA คือกฎหมายด้านความปลอดภัยอาหารของสหรัฐอเมริกา ที่เข้มงวดที่สุดในปัจจุบัน จุดสำคัญของ FSMA คือการเปลี่ยนแนวคิดจาก “แก้ปัญหาเมื่อเกิดแล้ว” →  “ป้องกันปัญหาก่อนเกิด” โรงงานที่ส่งออกไป US ต้องมีระบบป้องกันทุกความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ

หัวใจของ FSMA คือ Preventive Controls for Human Food (PCHF)
ประกอบด้วย

  • Hazard Analysis – วิเคราะห์ความเสี่ยงในทุกขั้นตอน
  • Preventive Controls – มีมาตรการป้องกัน เช่น การควบคุมวัตถุดิบ การควบคุมอุณหภูมิ และการควบคุมวัตถุแปลกปลอม (Critical Control Point)
  • Monitoring – ตรวจติดตามผลการควบคุม
  • Corrective Actions – แผนแก้ไขเมื่อเกิดปัญหา
  • Verification – การตรวจทวนว่าแผนควบคุมยังสมบูรณ์
  • Recordkeeping – บันทึกข้อมูลเพื่อใช้ใน Audit และตรวจสอบย้อนหลัง

FSMA คาดหวังอะไรจากโรงงานไทย?
1. ต้องมี PCQI (Preventive Controls Qualified Individual)

  • เป็นผู้ผ่านการอบรมจากหลักสูตรที่ FDA ยอมรับ
  • เป็นผู้ร่าง ตรวจสอบ และอนุมัติแผน Food Safety ทั้งหมด

2. ต้องมีระบบตรวจวัตถุแปลกปลอมที่พิสูจน์ได้จริง
เครื่องตรวจอาหารต้องใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น

เพราะวัตถุแปลกปลอมเป็นหนึ่งใน “ความเสี่ยงสูงสุด” ที่ FDA ให้ความสำคัญมาก

3. ต้องมีระบบ Traceability สมบูรณ์
ตรวจสอบย้อนหลังได้ทันทีว่า

  • สินค้าใดผ่านการตรวจ
  • ผลตรวจเป็นอย่างไร
  • ใครเป็นผู้ทำ Verification
  • เกิดความผิดปกติที่ Batch ใด

4. ต้องมีการทำ Validation และ Verification
FSMA ระบุชัดเจนว่า

  • Validation = พิสูจน์ว่าเครื่องตรวจอาหารทำงานได้จริง
  • Verification = ตรวจยืนยันเป็นประจำ ว่าเครื่องยังทำงานได้ต่อเนื่อง

ซึ่งเป็นส่วนที่เครื่องจาก Siam Paragon Solutions รองรับเต็มระบบ (Log File, User Access, Export Data)

มาตรฐาน IFS Food คืออะไร? (มาตรฐาน IFS Food)
IFS Food (International Featured Standard – Food) เป็นมาตรฐานที่ลูกค้าในยุโรป เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี ให้ความสำคัญมาก โดยเฉพาะกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น EDEKA Carrefour ALDI Auchan

IFS โฟกัสเรื่องอะไรเป็นพิเศษ?
1. ความปลอดภัยด้านวัตถุแปลกปลอม IFS มีข้อกำหนดชัดเจนเกี่ยวกับ

  • Metal Detector
  • X-Ray
  • Magnet
  • Sieve
  • Detection Limits
  • Reject System

IFS ต้องการ “หลักฐานชัดเจน” ว่าเครื่องตรวจอาหารทำงานได้จริง

2. การตรวจสอบย้อนกลับ (Full Traceability)  ทดสอบแบบ Forward Traceability และ Backward Traceability ภายใน 4 ชั่วโมง
3. การทดสอบความไวและการบำรุงรักษา  IFS จะตรวจว่า

  • ความไวสอดคล้องกับ Product Matrix
  • Test Piece ผ่านทุกตำแหน่ง
  • Reject ทำงานถูกต้อง
  • มีแผน PM, Calibration, Verification

4. ข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับสินค้าส่งออกยุโรป  เช่น

  • การตรวจ Bone Fragment
  • การตรวจ Glass Fragment
  • การตรวจ Plastic Hard Piece
  • การควบคุม Packaging Integrity

ซึ่งทั้งหมดนี้ “ต้องใช้ X-Ray” เท่านั้น และเป็นสิ่งที่ Metal Detector ไม่สามารถทำได้

โรงงานต้องเตรียมอะไรเพื่อให้ผ่าน FSMA และ IFS Food?
1. ติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุแปลกปลอมที่มีประสิทธิภาพสูง
โดยเฉพาะเครื่องที่ตรวจเจอทั้งโลหะและไม่ใช่โลหะ เช่น เศษแก้ว หิน พลาสติกแข็ง กระดูกปลา เข็มในหมู ซึ่งตรวจได้เฉพาะ X-Ray เช่นรุ่น

2. มี Validation Report รองรับ Audit
ต้องพิสูจน์ว่าเครื่อง

  • ตรวจเจอจริง
  • ในสินค้าจริง
  • ทุกตำแหน่ง
  • ทุกสภาวะ

3. มี Verification Routine ชัดเจน
ต้องมีตารางตรวจประจำ เช่น ทุก 1–2 ชั่วโมง เปลี่ยน Shift หรือเปลี่ยน Batch

4. บันทึกข้อมูลแบบอัตโนมัติ (Digital Record)
ระบบของ Siam Paragon Solutions รองรับ Log File, User Level Access, Export Data, History Tracking ซึ่งมีประโยชน์มากเวลาผ่าน Audit FSMA และ IFS

5. อบรมพนักงานผลิต + QA ให้เข้าใจกระบวนการ
IFS และ FSMA ให้ความสำคัญกับ Human Error มาก ต้องมั่นใจว่าพนักงานเข้าใจ

  • การทดสอบ
  • การ Reject
  • การแก้ไขเมื่อไม่ผ่าน (Corrective Action)

ทำไมต้องเป็น Siam Paragon Solutions?

เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบตรวจวัตถุแปลกปลอมครบวงจร เหมาะกับโรงงานที่ต้องการส่งออกระดับ US/EU โดยเฉพาะ

  • เครื่อง X-Ray ความไวสูง (Bone Detect, Dual View)
  • ตรวจได้ทั้งโลหะและไม่ใช่โลหะ
  • ระบบ Reject แม่นยำ (Airjet, Pusher, Shuttle, Dropout)
  • Log File + User Access สำหรับ Audit
  • Calibration + Validation รองรับ FSMA / IFS
  • ทีมบริการไทย–ญี่ปุ่นตอบสนองไว
  • มีอะไหล่พร้อม ลด Downtime
  • รองรับสินค้าทุกประเภท (อาหารทะเล–เนื้อสัตว์–เบเกอรี่–ซอส–ผักผลไม้)

หากต้องการความมั่นใจและการเตรียมตัวที่ถูกต้อ เครื่องตรวจวัตถุแปลกปลอมจาก Siam Paragon Solutions คือโซลูชันที่ช่วยให้ผ่าน Audit ได้ง่ายขึ้น และเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าต่างประเทศได้จริง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร. : +66(0)2-394-9932
มือถือ : +66(0)99-827-0078
Email : marketing@siamparagons.co.th
Website : Siam Paragon Solutions Co.,Ltd.
Website Profile: บริษัท สยามพารากอน โซลูชั่นส์ จำกัด
Facebook : Siam Paragon Solutions - ศูนย์รวมเครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้