Metal Detector กับ X-ray Inspection ต่างกันอย่างไรและควรเลือกใช้แบบไหน

ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม มาตรฐานด้านความปลอดภัยถือเป็นหัวใจสำคัญที่สุด เพราะหากมีสิ่งแปลกปลอมปะปนในสินค้าเพียงเล็กน้อย อาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ทันที ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ใช้ในการตรวจจับสิ่งปนเปื้อนหลัก ๆ อยู่ 2 แบบ ได้แก่ Metal Detector และ เครื่อง X-ray ตรวจอาหาร (X-ray Inspection System) ซึ่งแม้ทั้งสองจะมีเป้าหมายเดียวกัน คือ การคัดกรองสิ่งแปลกปลอม แต่ในรายละเอียดแล้วแตกต่างกันพอสมควร
บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า Metal Detector และเครื่อง X-ray ตรวจอาหาร ต่างกันอย่างไร และธุรกิจของคุณควรเลือกใช้งานแบบไหน จึงจะเหมาะสมที่สุด

• ตรวจจับโลหะได้แม่นยำและรวดเร็ว
• ราคาย่อมเยากว่าเครื่อง X-ray
• เหมาะสำหรับสินค้าที่มีความเสี่ยงเจือปนโลหะ เช่น ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ เนื้อสัตว์แปรรูป อาหารแช่แข็ง
• มีความเสถียร ใช้งานง่าย และบำรุงรักษาไม่ซับซ้อน

• ตรวจจับได้เฉพาะโลหะเท่านั้น
• ประสิทธิภาพอาจลดลงในสินค้าที่มีเกลือสูงหรือมีน้ำ (เช่น ปลาเค็ม ผลิตภัณฑ์หมักดอง) เพราะเกิด Product Effect
• ไม่สามารถตรวจจับสิ่งแปลกปลอมที่ไม่ใช่โลหะ เช่น แก้ว พลาสติก กระดูก

เครื่อง X-ray ตรวจอาหาร คืออะไร?
เครื่อง X-ray ตรวจอาหาร (X-ray Inspection System) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้รังสีเอกซ์ความเข้มต่ำในการสแกนผลิตภัณฑ์ เพื่อหาความผิดปกติภายใน โดยไม่จำกัดเฉพาะโลหะ แต่ยังรวมถึง แก้ว เซรามิก พลาสติกแข็ง กระดูก ยาง เรซิน และวัสดุอื่น ๆ ที่มีความหนาแน่นต่างจากเนื้ออาหาร

ข้อดีของเครื่อง X-ray ตรวจอาหาร

• ตรวจจับสิ่งแปลกปลอมได้หลากหลายประเภท ทั้งโลหะและไม่ใช่โลหะ
  
• แม่นยำสูง แม้ในผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมซับซ้อน
  
• ใช้ได้กับอาหารเกือบทุกประเภท เช่น อาหารแปรรูป บรรจุภัณฑ์สูญญากาศ อาหารกระป๋อง ขนมขบเคี้ยว
  
• ตรวจสอบความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์ น้ำหนัก หรือจำนวนชิ้นภายในได้ด้วย

ข้อจำกัดของเครื่อง X-ray ตรวจอาหาร

• ราคาสูงกว่าระบบ Metal Detector
  
• ต้องการพื้นที่ติดตั้งมากกว่า และต้องมีมาตรการความปลอดภัย
  
• ค่าใช้จ่ายด้านการดูแลรักษาสูงกว่า
  

ตารางเปรียบเทียบ Metal Detector vs X-ray Inspection

ธุรกิจแบบไหนควรเลือกใช้?

• หากธุรกิจของคุณผลิตอาหารทั่วไป เช่น ขนมปัง เบเกอรี่ เนื้อสัตว์แปรรูป หรืออาหารที่เสี่ยงต่อเศษโลหะปนเปื้อน → การใช้ Metal Detector เพียงพอและคุ้มค่า
• หากผลิตภัณฑ์ของคุณมีบรรจุภัณฑ์ซับซ้อน เช่น กล่องอะลูมิเนียม ฟอยล์ หรืออาหารที่อาจมีเศษแก้ว กระดูก พลาสติก → ควรเลือกใช้ เครื่อง X-ray ตรวจอาหาร เพื่อความมั่นใจสูงสุด
• ธุรกิจที่ต้องการมาตรฐานสากล (เช่น HACCP, BRC, IFS) → การติดตั้ง X-ray Inspection System จะช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือของโรงงานและผ่านการตรวจประเมินได้ง่ายขึ้น

ทำไมควรเลือก Siam Paragon Solutions
Siam Paragon Solutions เป็นผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีตรวจสอบคุณภาพอาหารแบบครบวงจร ทั้ง Metal Detector และเครื่อง X-ray ตรวจอาหาร ที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา แนะนำการเลือกใช้งานที่เหมาะสมกับสายการผลิตของคุณ
สิ่งที่คุณจะได้รับจากเรา

• การประเมินความต้องการของสายการผลิตจริง
• แนะนำเครื่องที่เหมาะสมกับงบประมาณและมาตรฐานที่ต้องการ
• การติดตั้งและดูแลหลังการขายแบบมืออาชีพ
• บริการอบรมการใช้งานและการบำรุงรักษา

ทั้ง Metal Detector และเครื่อง X-ray ตรวจอาหาร ต่างก็มีบทบาทสำคัญในการควบคุมคุณภาพอาหารและปกป้องผู้บริโภค ความแตกต่างหลักคือ Metal Detector เน้นตรวจจับโลหะ ส่วน เครื่อง X-ray ตรวจอาหารตรวจจับได้หลากหลายวัสดุ หากธุรกิจต้องการความคุ้มค่าและผลิตภัณฑ์ทั่วไป Metal Detector คือคำตอบ แต่ถ้าต้องการมาตรฐานขั้นสูงและความครอบคลุมในการตรวจสอบ เครื่อง X-ray ตรวจอาหาร คือทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

หากคุณกำลังมองหาโซลูชันด้าน การตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมในอาหาร ที่ครบวงจรและเชื่อถือได้ ติดต่อ Siam Paragon Solutions เพื่อขอคำปรึกษาและเลือกเทคโนโลยีที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจคุณได้ทันที

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร. : +66(0)2-394-9932
มือถือ : +66(0)99-827-0078
Email : marketing@siamparagons.co.th
Website : Siam Paragon Solutions Co.,Ltd.
Facebook : Siam Paragon Solutions - ศูนย์รวมเครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร