มาตรฐานสากล HACCP และการตรวจวัตถุแปลกปลอมในโรงงานอาหาร

ในอุตสาหกรรมอาหาร ความปลอดภัยถือเป็นหัวใจหลักที่ผู้ผลิตไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะหากมีการปนเปื้อนหรือสิ่งแปลกปลอมเล็ดลอดออกสู่ท้องตลาด ไม่เพียงส่งผลต่อผู้บริโภค แต่ยังทำให้ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์เสียหายอย่างมหาศาล ดังนั้นโรงงานอาหารทั่วโลกจึงต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยสากล โดยหนึ่งในระบบที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายคือ HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Points)

HACCP คืออะไร
HACCP คือระบบการจัดการด้านความปลอดภัยอาหารที่มุ่งเน้นการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิต ตั้งแต่การรับวัตถุดิบ การแปรรูป การบรรจุ ไปจนถึงการจัดเก็บและขนส่ง โดยระบบนี้มุ่งเน้น การควบคุมจุดวิกฤต (Critical Control Points: CCPs) เพื่อลดความเสี่ยงที่สิ่งปนเปื้อนจะเข้าสู่ผลิตภัณฑ์
องค์ประกอบหลักของ HACCP มี 7 หลักการ ได้แก่

1. การวิเคราะห์อันตราย (Hazard Analysis)
2. การกำหนดจุดควบคุมวิกฤต (Critical Control Points)
3. การกำหนดค่ามาตรฐานวิกฤต (Critical Limits)
4. การเฝ้าระวัง (Monitoring)
5. การดำเนินการแก้ไข (Corrective Actions)
6. การตรวจสอบยืนยัน (Verification)
7. การบันทึกและจัดทำเอกสาร (Record Keeping)

วัตถุแปลกปลอมในอาหาร: ความเสี่ยงที่ควบคุมได้
หนึ่งในความเสี่ยงที่ HACCP ให้ความสำคัญคือ วัตถุแปลกปลอมในอาหาร (Foreign Objects) ซึ่งอาจเกิดจาก

• เครื่องจักรในสายการผลิต เช่น เศษโลหะ
• บรรจุภัณฑ์ เช่น เศษแก้ว พลาสติกแข็ง หรือยาง
• วัตถุดิบ เช่น กระดูก กรวด หรือเศษเปลือก
• การปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม

การปล่อยให้วัตถุแปลกปลอมเล็ดลอดไปถึงผู้บริโภค อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บ ร้องเรียน หรือแม้แต่การ Recall สินค้า ที่สร้างต้นทุนและความเสียหายอย่างมหาศาล

บทบาทของการตรวจวัตถุแปลกปลอมในระบบ HACCP
การตรวจวัตถุแปลกปลอมถือเป็นหนึ่งใน Critical Control Points (CCPs) ที่สำคัญของ HACCP เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ช่วยยืนยันความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ก่อนออกสู่ผู้บริโภค
เทคโนโลยีที่ใช้ในโรงงานอาหาร ได้แก่

• Metal Detector → ตรวจจับโลหะที่ปนเปื้อนในอาหารสำเร็จรูป เนื้อสัตว์ ขนมขบเคี้ยว
• X-ray Inspection → ตรวจจับได้ทั้งโลหะ แก้ว พลาสติกแข็ง กระดูก และสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ รวมถึงตรวจสอบความสมบูรณ์ของบรรจุภัณฑ์
• Vision Inspection → ใช้ AI และกล้องความละเอียดสูง ตรวจสอบลักษณะผิดปกติ เช่น สี รูปร่าง หรือการบรรจุไม่ครบ

เปรียบเทียบ Metal Detector และ X-ray Inspection

HACCP กับความเชื่อมั่นในตลาดโลก
ปัจจุบันผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออกอาหารไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา จำเป็นต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน HACCP หรือมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น GMP, BRC, IFS ซึ่งล้วนมีข้อกำหนดเรื่อง การควบคุมวัตถุแปลกปลอมในอาหาร อย่างเข้มงวด การมีเทคโนโลยีตรวจสอบที่ทันสมัย จึงไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังเป็น แต้มต่อทางธุรกิจ ที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าและผู้บริโภคในระดับสากล

ทำไมควรเลือก Siam Paragon Solutions
การลงทุนในระบบตรวจสอบคุณภาพอาหารต้องการทั้ง เครื่องจักรที่ได้มาตรฐาน และ ผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษา Siam Paragon Solutions พร้อมให้บริการครบวงจรด้านการตรวจสอบวัตถุแปลกปลอมในอาหาร โดยครอบคลุมตั้งแต่

• การให้คำปรึกษาตามหลัก HACCP
• จำหน่ายและติดตั้งเครื่อง Metal Detector และ X-ray Inspection คุณภาพสูง
• การทดสอบจริงในสายการผลิต
• บริการบำรุงรักษาและอบรมการใช้งาน
• การสนับสนุนเพื่อให้โรงงานผ่านมาตรฐาน HACCP และ Food Safety ระดับสากล

HACCP ไม่ได้เป็นเพียงมาตรฐานที่ช่วยให้โรงงานอาหารผ่านการตรวจประเมิน แต่ยังเป็นระบบที่สร้างความมั่นใจใน ความปลอดภัยของอาหาร และปกป้องผู้บริโภคจาก วัตถุแปลกปลอมในอาหาร การเลือกเทคโนโลยีตรวจสอบที่เหมาะสม เช่น Metal Detector หรือ X-ray Inspection คือการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

หากคุณกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ที่ไว้ใจได้ Siam Paragon Solutions พร้อมเป็นผู้ช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตของคุณให้ได้ตาม HACCP และมาตรฐานสากลอื่น ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความสำเร็จในธุรกิจอาหารอย่างยั่งยืน

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร. : +66(0)2-394-9932
มือถือ : +66(0)99-827-0078
Email : marketing@siamparagons.co.th
Website : Siam Paragon Solutions Co.,Ltd.
Facebook : Siam Paragon Solutions - ศูนย์รวมเครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร